อ่านรายละเอียดหัวข้อที่สนใจ สำหรับกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis)
- ตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจอะไรบ้าง?
- ตรวจสุขภาพประจำปี ที่ไหนดี ? ราคาเท่าไหร่ ?
- เคล็ดลับเลือกแพ็กเกจให้ตรงใจ
- ตรวจสุขภาพประจำปีฟรี ได้ที่ไหน?
- ตรวจสุขภาพประจำปี ประกันสังคม
- วิธีใช้สิทธิตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาลตามสิทธิ?
- เลือกแพคเกจตรวจสุขภาพผู้หญิงและผู้ชายเลือกอย่างไร?
- เลือกแพคเกจตรวจสุขภาพตามอายุเลือกอย่างไร?
- ตรวจสายตาและการได้ยิน
ทุกวันนี้ใครๆ ก็พูดถึงการ “ตรวจสุขภาพประจำปี” เพราะเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการดูแลตัวเองแบบไม่ต้องรอให้ป่วยก่อน ป้องกันดีกว่ารักษาแน่นอน โดยเฉพาะในปี 2568 ที่โรคใหม่ ๆ ก็มาไว การตรวจสุขภาพสม่ำเสมอช่วยให้เรารู้ทันความเสี่ยง แถมหลายแห่งยังมีแพ็กเกจราคาดี หรือสิทธิฟรีจากประกันสังคมที่หลายคนอาจยังไม่รู้ด้วยซ้ำ บทความนี้จะพาคุณไปดูว่า การตรวจสุขภาพประจำปีต้องตรวจอะไรบ้าง ? พร้อมคำแนะนำที่เข้าใจง่ายและใช้ได้จริง ใครที่อยากเริ่มต้นดูแลตัวเอง หรือกำลังวางแผนพาคนที่คุณรักไปตรวจ อย่าเลื่อนผ่าน!
ตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจอะไรบ้าง?
รายการตรวจอาจแตกต่างกันตามช่วงวัย เพศ หรือโรคประจำตัว แต่โดยทั่วไปจะประกอบด้วย
ตรวจร่างกายทั่วไป (Physical Exam)
- วัดความดันโลหิต ชีพจร
- ตรวจดัชนีมวลกาย (BMI)
- ตรวจสายตา/การได้ยิน
ตรวจเลือด (Blood Test)
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS)
- ตรวจไขมันในเลือด (Cholesterol, Triglyceride, HDL, LDL)
- ตรวจการทำงานของตับและไต
- ตรวจกรดยูริก (สำหรับโรคเกาต์)
ตรวจปัสสาวะ
- เพื่อหาความผิดปกติเกี่ยวกับไต หรือระบบทางเดินปัสสาวะ
เอกซเรย์ทรวงอก (Chest X-ray)
- เพื่อตรวจหาความผิดปกติของปอด หรือก้อนเนื้อในทรวงอก
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- สำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ
ตรวจมะเร็ง (แล้วแต่เพศและอายุ)
- ผู้หญิง ตรวจมะเร็งปากมดลูก และ มะเร็งเต้านม
- ผู้ชาย ตรวจมะเร็งต่อมลูกหมาก
ตรวจสุขภาพประจำปี ที่ไหนดี ? ราคาเท่าไหร่ ?
มีตัวเลือกหลากหลายในการตรวจสุขภาพประจำปี โดยแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่
โรงพยาบาลรัฐ
การตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาลรัฐ
- สามารถใช้สิทธิประกันสังคมหรือบัตรทองได้
- ค่าใช้จ่ายต่ำหรือฟรีในบางกรณี
- มีความน่าเชื่อถือสูง
- อาจต้องรอคิวนาน
- รายการตรวจอาจจำกัดเฉพาะที่ภาครัฐกำหนด
- สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ตามเงื่อนไข
โรงพยาบาลเอกชน
การตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเอกชน
- บริการรวดเร็ว มีแพ็กเกจหลากหลาย
- มีรายการตรวจเฉพาะทางให้เลือกเพิ่มเติม
- สามารถตรวจแบบเฉพาะกลุ่ม เช่น ตรวจมะเร็ง ตรวจหัวใจ
- ราคาสูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ
- ควรตรวจสอบสิทธิประกันกลุ่ม/ประกันสุขภาพก่อนเพื่อใช้ลดค่าใช้จ่าย ราคาโดยประมาณ เริ่มต้นตั้งแต่ 1,500 – 15,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายการที่ตรวจ
คลินิกเวชกรรมและศูนย์ตรวจสุขภาพ
การตรวจสุขภาพประจำปีที่คลินิกเวชกรรมและศูนย์ตรวจสุขภาพ
- ราคาเข้าถึงง่าย ราคาโดยประมาณ เริ่มต้น 500 – 2,000 บาท
- สะดวก เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการรายการตรวจเบื้องต้นที่ซับซ้อน เช่น น้ำตาล ไขมัน ความดัน
- ตรวจได้ไว ไม่ต้องรอนาน
- ควรเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
เคล็ดลับเลือกแพ็กเกจให้ตรงใจ
เพื่อความคุ้มค่า มีเคล็ดลับในการเลือกแพ็คเกจการตรวจสุขภาพประจำปี ให้ตรงใจและตรงความต้องการ
- ตรวจสอบอายุและเพศ เพื่อเลือกรายการตรวจที่เหมาะสม
- เปรียบเทียบราคาจากหลายโรงพยาบาลหรือคลินิก
- พิจารณาว่ามีสิทธิประกันสังคมหรือไม่
- ใช้ช่วงโปรโมชั่น เช่น แพ็กเกจลดราคาประจำเดือนสุขภาพ เช่น กรกฎาคม เพื่อไปตรวจสุขภาพประจำปี
- อ่านรีวิวและประสบการณ์ผู้ใช้บริการก่อนตัดสินใจ
ตรวจสุขภาพประจำปีฟรี ได้ที่ไหน?
สำหรับท่านที่ต้องการตรวจสุขภาพฟรี จำเป็นต้องรู้ว่าที่ไหนมีบริการบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมมาฝากกัน ดังนี้
โรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคม
เหมาะสำหรับผู้ประกันตน ม.33, ม.39, ม.40 โดยให้ตรวจฟรีปีละ 1 ครั้ง (ตามเงื่อนไข สปส.) รายการตรวจหลัก ได้แก่
- ตรวจเลือด ความดัน เบาหวาน
- ตรวจไขมันในเลือด
- ตรวจเอกซเรย์ทรวงอก
- ตรวจมะเร็ง (ตามช่วงวัย)
ส่วนขั้นตอนการตรวจ คือ ให้ติดต่อโรงพยาบาลที่เลือกไว้ในระบบประกันสังคม หรือลงทะเบียนนัดล่วงหน้า ข้อดี คือ ได้ตรวจครอบคลุมแบบสุขภาพแรงงาน
สถานพยาบาลสังกัดกรมอนามัย / คลินิกอบต. / สาธารณสุขใกล้บ้าน
เหมาะสำหรับประชาชนทั่วไป มีบริการตรวจฟรี นอกจากนั้น บางแห่งยังมีช่วงบริการ “วันตรวจสุขภาพฟรี” ตามแคมเปญของรัฐอีกด้วย ซึ่งรายการตรวจ มีดังนี้
- วัดความดัน
- ตรวจเบาหวาน
- ตรวจสายตา / สุขภาพช่องปาก
หน่วยแพทย์เคลื่อนที่/รถตรวจสุขภาพจากหน่วยงานรัฐและเอกชน
เหมาะสำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือ คนที่ไม่มีเวลาไปโรงพยาบาล ตรวจฟรีเฉพาะช่วงที่มีโครงการลงพื้นที่ ส่วนรายการตรวจสุขภาพ ได้แก่
- ตรวจทั่วไป / ตรวจตา / ตรวจฟัน
- แจกยาเบื้องต้น และให้คำปรึกษาสุขภาพ
โครงการตรวจสุขภาพจากธนาคาร / ห้าง / ประกันชีวิต
เหมาะสำหรับผู้ถือบัตรสมาชิกหรือผู้ซื้อประกันสุขภาพ ทำการตรวจให้ฟรี หรือมีส่วนลด ตามเงื่อนไขของแต่ละองค์กร ตัวอย่างเช่น ลูกค้า SCB Life ตรวจฟรีกับโรงพยาบาลที่ร่วมรายการบัตรเครดิตบางธนาคาร มีสิทธิ์ใช้บริการแพ็กเกจตรวจสุขภาพราคาพิเศษ ข้อดีคือ ได้บริการระดับพรีเมียมจากโรงพยาบาลเอกชน ในราคาประหยัด
ตรวจสุขภาพประจำปี ประกันสังคม
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถรับสิทธิตรวจสุขภาพประจำปี ได้ฟรี 1 ครั้งต่อปี โดยประกันสังคม จะครอบคลุมรายการตรวจพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเฝ้าระวังสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการตรวจคัดกรองโรคทั่วไป และโรคเรื้อรังที่พบบ่อย
ตรวจสุขภาพประจำปี ประกันสังคมตรวจอะไรได้บ้าง ?
รายการตรวจที่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ในแต่ละปี ได้แก่
- ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์
- วัดความดันโลหิต ชีพจร ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)
- ตรวจไขมันในเลือด (Cholesterol และ Triglyceride)
- ตรวจปัสสาวะ (Urine analysis)
- ตรวจเอกซเรย์ปอด (Chest X-ray)
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงหรืออายุเกิน 35 ปี
นอกจากนี้ หากผู้ประกันตนเป็นเพศหญิงและมีอายุเกิน 30 ปี สามารถขอรับการตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap smear) ได้ฟรีเช่นกัน
วิธีใช้สิทธิตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาลตามสิทธิ
การใช้สิทธิสามารถทำได้ง่าย โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ตรวจสอบโรงพยาบาลตามสิทธิในระบบประกันสังคมของตนผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม หรือแอป SSO Connect
- ติดต่อโรงพยาบาลเพื่อทำการนัดหมาย
- ยื่นบัตรประชาชน ณ วันที่เข้ารับการตรวจ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
- โรงพยาบาลจะดำเนินการตามรายการที่ประกันสังคมครอบคลุม
เลือกแพคเกจตรวจสุขภาพผู้หญิงและผู้ชายเลือกอย่างไร
ผู้หญิงและผู้ชายมีระบบร่างกาย และความเสี่ยงต่อโรคที่แตกต่างกัน เช่น
- ผู้หญิง มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้ชาย
- ผู้ชาย มักมีความเสี่ยงเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจมากกว่า
ดังนั้นแพคเกจตรวจสุขภาพ จึงต้องออกแบบให้ครอบคลุมความเสี่ยงที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละเพศ
วิธีเลือกแพคเกจตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับผู้หญิง
- ตรวจร่างกายทั่วไป และดัชนีมวลกาย
- ตรวจเลือด (ระดับน้ำตาล ไขมัน CBC ไต ตับ)
- ตรวจปัสสาวะและอุจจาระ
- ตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap smear)
- ตรวจมะเร็งเต้านม (Digital Mammogram + Ultrasound)
- ตรวจความหนาแน่นของกระดูก (Bone Density)
- ตรวจฮอร์โมนเพศ (เฉพาะผู้หญิงวัยทองหรือผู้มีปัญหาเรื่องรอบเดือน)
วิธีเลือกแพคเกจตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับผู้ชาย
- ตรวจร่างกายทั่วไป และเช็กประวัติสุขภาพ
- ตรวจเลือด (น้ำตาล ไขมัน การทำงานของตับ ไต)
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- ตรวจต่อมลูกหมาก (PSA – Prostate Specific Antigen)
- ตรวจเอกซเรย์ปอดและช่องท้อง
- ตรวจความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
เลือกแพคเกจตรวจสุขภาพตามอายุเลือกอย่างไร
เมื่ออายุมากขึ้น ความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นแพคเกจตรวจสุขภาพ ควรออกแบบให้สอดคล้องกับวัย เพื่อให้สามารถเฝ้าระวังโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อายุ 20-29 ปี - เน้นตรวจสุขภาพเบื้องต้น
สำหรับวัยนี้แม้จะดูแข็งแรง แต่ควรเริ่มต้นด้วยการสร้างวินัยการตรวจสุขภาพ โดยเน้นการตรวจพื้นฐาน เช่น
- ตรวจร่างกายโดยแพทย์ (Physical Examination)
- ตรวจเลือด (น้ำตาล ไขมัน CBC)
- ตรวจปัสสาวะ
- ตรวจการมองเห็นและการได้ยิน
- ตรวจ BMI และความดันโลหิต ผู้หญิงควรตรวจภายในและมะเร็งปากมดลูก
อายุ 30-39 ปี - เพิ่มรายการที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง
เมื่อเข้าสู่วัยทำงานเต็มตัว ควรเพิ่มการตรวจที่ลึกขึ้น เช่น
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- ตรวจการทำงานของตับและไต
- ตรวจไขมันและน้ำตาลในเลือด
- ตรวจเอกซเรย์ทรวงอก
- ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ (เฉพาะผู้มีอาการ)
- ตรวจมะเร็งปากมดลูก/เต้านม สำหรับผู้หญิง
- ตรวจต่อมลูกหมาก (PSA) เริ่มพิจารณาในผู้ชายอายุ 35 ปีขึ้นไป
อายุ 40-49 ปี - ตรวจเชิงลึกและมะเร็งเฉพาะทาง
วัยนี้เริ่มมีความเสี่ยงเรื่องโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน มะเร็งต่าง ๆ มากขึ้น ควรตรวจสุขภาพประจำปีเพิ่ม ในรายการเหล่านี้
- ตรวจไขมัน น้ำตาล ความดัน ตับ ไต
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และความหนาแน่นของหลอดเลือด
- ตรวจความหนาแน่นของกระดูก
- ตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่ (FOBT)
- ตรวจมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรม (ผู้หญิง)
- ตรวจต่อมลูกหมาก (PSA) และฮอร์โมนเพศชาย (ผู้ชาย)
อายุ 50 ปีขึ้นไป - ตรวจอย่างครอบคลุม และถี่ขึ้น
วัยเกษียณหรือก่อนเกษียณ ควรตรวจอย่างละเอียดทุกปี เพื่อป้องกันโรคเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อน ได้แก่
- ตรวจหัวใจด้วย Echo หรือ Exercise Stress Test
- ตรวจมะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่ ปากมดลูก ต่อมลูกหมาก (ตามเพศ)
- ตรวจสมรรถภาพสมอง (เฉพาะราย)
- ตรวจสมดุลของกระดูก กล้ามเนื้อ
- ตรวจเบาหวาน ตับ ไต ไขมัน ความดัน
ตรวจสายตาและการได้ยิน
การตรวจสุขภาพประจำปี ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรใส่ใจ เพราะการรู้เท่าทันความผิดปกติในร่างกายตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงได้มาก โดยเฉพาะในปี 2568 ที่เทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยก้าวหน้าขึ้นมาก คุณสามารถเลือกแพ็กเกจตรวจที่เหมาะสมกับเพศ วัย และไลฟ์สไตล์ของคุณได้ง่ายขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีหลายโรงพยาบาลและคลินิกที่ให้บริการ ตรวจสุขภาพประจำปี พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ ทั้งแบบจ่ายเองหรือใช้สิทธิประกันสังคม ประกันสุขภาพ เรียกได้ว่าไม่ตรวจถือว่าพลาด!
และถ้าคุณกำลังมองหาการวางแผนดูแลสุขภาพในระยะยาว นอกจากการตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว การมีประกันสุขภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SCB Protect ที่มีแผนประกันสุขภาพหลากหลาย ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง และยังสามารถเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อีกด้วย