หน้าแรก > บทความ > นอนกรนเกิดจากอะไร อันตรายไหม รักษาอาการอย่างไรได้บ้าง

นอนกรนเกิดจากอะไร อันตรายไหม รักษาอาการอย่างไรได้บ้าง

      เพื่อนๆ เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า ทำไมคนเราถึงต้อง “นอนกรน” การนอน กรนเป็นอาการที่สำคัญของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งมีอันตราย และอาจทำให้เกิดความผิดปกติอื่นตามมาจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ไม่ใช่แค่ทำให้น่ารำคาญเวลานอนอย่างเดียวเท่านั้น การนอนกรนสามารถที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่มักจะพบได้บ่อยในกลุ่มคนที่มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ มีสาเหตุมาจากอวัยวะในระบบหายใจส่วนต้นมีอาการตีบ ระดับความรุนแรงของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป ผู้ป่วยจะต้องทำ Sleep Test เพื่อหาระดับความเสี่ยงที่เป็นอันตราย และรับการรักษา

 

นอนกรน ประกันออนไลน์


อาการนอนกรนเกิดจากอะไร

     สาเหตุของการนอนกรนเกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนบนตีบแคบ อันเนื่องมาจากเวลาที่เรานอนหลับกล้ามเนื้อต่างๆ ทั่วร่างกายจะเกิดการผ่อนคลาย รวมไปถึงกล้ามเนื้อในช่องปาก ทำให้กล้ามเนื้อที่ผ่อนคลายมีการย่อยคล้อยลงมาปิดทางเดินหายใจ โดยเฉพาะเวลาที่เรานอนหงาย ทำให้ลมหายใจไม่สามารถผ่านไปยังหลอดลมและปอดได้อย่างสะดวก ทำให้เกิดการกระพือของกล้ามเนื้อในลำคอเป็นเสียงดังขึ้นมา ตอนนี้เราก็รู้กันแล้วว่านอนกรนเกิดจากอะไร เราไปดูประเภทของการนอนกรนกันต่อเลยดีกว่า

 

นอนกรนแบบธรรมดา

     การนอนกรนแบบธรรมดาเป็นการนอนกรนแบบที่ไม่ได้มีอันตราย เพียงแต่สร้างความรำคาญให้เวลาที่นอนร่วมกับผู้อื่น อาจมีอาการคอแห้ง หรือเจ็บคอเวลาที่ตื่นนอน แต่ไม่ได้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อร่างกาย การนอนกรนแบบธรรมดาเกิดจากช่องทางเดินหายใจตีบเวลาที่นอนหลับ ไม่ได้ถึงขั้นว่าปิดสนิท ช่องคอที่ตีบจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือน เกิดเป็นเสียงกรนดังขึ้นมา

 

การนอนกรนแบบอันตราย

     แน่นอนในเมื่อมีการนอนกรนแบบธรรมดาไปแล้ว ก็จะต้องมีการนอนกรน แบบที่เป็นอันตราย ถึงได้มีการกำหนดคอร์สการรักษาขึ้นมา การนอนกรนแบบอันตรายจะมีความรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้เลย คือกล้ามเนื้อในช่องคอมีการหย่อนตัวลงมากผิดปกติ หรือมีชั้นไขมันที่หนาจนทำให้ช่องทางเดินหายใจปิดสนิท!! หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Obstructive Sleep Apnea

 

นอนกรน ประกันออนไลน์

 

วิธีแก้อาการนอนกรนด้วยตัวเอง

 

      ในเบื้องต้นหากเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องการนอนกรนมากๆ ก็ยังพอที่จะแก้อาการนอนกรนด้วยตัวเอง ได้อยู่บ้าง หลายคนไม่มีประกันสุขภาพ ถ้าจะไปหาหมอเลยก็กลัวว่าจะมีค่าใช้จ่ายเยอะ เลยเลือกที่จะลองแก้นอนกรนด้วยตัวเองดูก่อน

  1. ลดน้ำหนักตัว เป็นวิธีที่สามารถลดการนอนกรนได้จริง แต่ต้องเป็นการลดน้ำหนักแบบมีประสิทธิภาพด้วย โดยจะเน้นไปที่การลดปริมาณไขมันในร่างกายให้น้อยลงเป็นหลัก
  2. หลีกเลี่ยงการนอนหงาย และเปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ การนอนหงายเป็นท่าที่ทำให้นอนกรนได้ง่ายมากที่สุด ดังนั้นการนอนตะแคงจะทำให้เกิดการนอนกรนน้อยกว่า
  3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ก่อนเข้านอน
  4. เลิกการสูบบุหรี่
  5. ทำความสะอาดเครื่องนอนอย่างสม่ำเสมอ ลดโอกาสที่จะทำให้เกิดหอบหืด ภูมิแพ้ จะช่วยให้การหายใจของเราดีขึ้น
  6. เพิ่มความชื้นในห้องเล็กน้อย อาจจะใช้อุปกรณ์สำหรับเพิ่มความชื้นในห้อง หรืออาจจะใช้วิธีวางอ่างน้ำเล็กๆ ไว้ในห้องนอนก็ได้เช่นกัน
  7. แนะนำให้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ จะทำให้สุขภาพในโพรงจมูกดีขึ้น

 

       อย่างไรก็ตามการแก้นอนกรนด้วยตัวเองต้องหาข้อมูลประกอบเยอะๆ  อย่าไปหลงเชื่อข้อความยารักษานอนกรนอะไรง่ายๆ อย่างน้อยที่สุดยาที่เราจะใช้ต้องมี อย. รับรอง รวมไปถึงพวกอุปกรณ์ตัวช่วยรักษานอนกรนต่างๆ เองก็ด้วย ทาง อย. มีประกาศออกมาว่าหลอกลวงอยู่เสมอ อย่าไปหลงเชื่อซื้อมาใช้กันนะ

 

นอนกรน ประกันออนไลน์

 

วิธีรักษานอนกรนด้วยหลักการแพทย์

นี่คือวิธีรักษาอาการนอนกรนที่น่าเชื่อถือมากที่สุด เพราะเป็นการรักษาด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เราจะต้องทำการตรวจคุณภาพการนอนหลับ Full Polysomnography (PSG) กันก่อน สิ่งที่เราจะได้จากการตรวจจะมีดังนี้

  1. คลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG)
  2. การเคลื่อนไหวลูกตา (EOG)
  3. คลื่นไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อบริเวณคางและขา (EMG)
  4. คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
  5. วัดระดับการหายใจผ่านทางจมูก (Air Flow)
  6. วัดระดับเสียงกรนด้วยไมโครโฟน (Snore sound)
  7. วัดการเคลื่อนไหวของหน้าอกและท้อง (Respiratory efforts)
  8. วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) และชีพจร

 

จากนั้นแพทย์จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากการทำ Sleep test แล้วทำการเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนต่อไป ในปัจจุบันนี้ก็จะมีเครื่องมือการรักษาอาการนอนกรนอยู่ 3 แบบด้วยกัน

  1. ใช้เครื่องอัดอากาศ CPAP เป็นการใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเหมือนกับหน้ากาก โดยตัวหน้ากากจะมีแรงดันส่งเข้าไปในระบบทางเดินหายใจของเรา ทำให้คอไม่ตีบเวลาที่เรานอนหลับ ช่วยทำให้อาการนอนกรนลดลงได้ เป็นวิธีการรักษาที่แพทย์เลือกใช้เป็นอันดับแรก รักษาได้ทุกระดับอาการ
  2. Oral Appliance เป็นอุปกรณ์ทันตกรรมที่ใช้สำหรับแก้อาการนอนกรนโดยเฉพาะ เครื่องมือนี้จะทำหน้าที่ดึงขากรรไกรล่างของเราให้ยืดออกมาเล็กน้อย ทำให้โคนลิ้นของเราอยุ่ในตำแหน่งที่สูงมากกว่าปกติ ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น แต่จะมีผลข้างเคียงอาจทำให้เกิดอาการเจ็บกราม มักจะใช้รักษาในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
  3. การผ่าตัด เป็นวิธีท้ายๆ ที่แพทย์จะเลือกใช้สำหรับการรักษา มีหลายระดับ และหลายวิธีการที่จะช่วยให้อาการดีขึ้นหรือหายขาดได้ เช่น การใช้คลื่นวิทยุจี้ การผ่าตัดต่อมทอลซิล การผ่าตัดตกแต่งเพดานอ่อน การผ่าตัดบริเวณโคนลิ้น เป็นต้น

 

การนอนกรนเป็นภาวะที่ช่องทางเดินหายใจของเราตีบมากกว่าปกติ จนทำให้เกิดเสียงดังเวลาที่มีลมผ่านในลำคอของเรา หากอาการรุนแรงจะเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) อันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ แต่ถ้าหากใครที่มีปัญหาเรื่องนี้อยู่ก็อย่าเพิ่งตกใจไป เราขอแนะนำให้ไปทำ sleep test เพื่อทราบข้อมูลว่าอาการของเราอยู่ในระดับไหน และจะต้องทำการรักษาอย่างไร หากอาการไม่รุนแรงมากก็สามารถที่จะแก้อาการนอนกรนด้วยตัวเองได้ แต่ถ้าหากอาการหนักก็ต้องให้แพทย์ช่วยจัดการรักษาให้ แต่อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะในระยะยาว จะมีผลกระทบกับสุขภาพของท่านอย่างแน่นอน