มะเร็งเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี แถมยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีอีกด้วย แต่สามารถรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบเจอได้เร็ว คนที่ป่วยเป็นมะเร็งมักที่จะไม่รู้ตัวกันมาก่อน กว่าที่จะเริ่มมีอาการก็สายไปแล้ว เชื้อมะเร็งอาจจะมีการพัฒนาจนทำให้รักษาได้ยาก หรือว่าอาจจะรักษาไม่ได้เลยก็ได้ ดังนั้นเราควรที่จะตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ ยิ่งเจอได้เร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสรอดได้มากขึ้น การรักษาโรคมะเร็งมีค่าใช้จ่ายที่สูง การมีประกันจะช่วยคลายกังวลเรื่องค่ารักษาได้ ไม่ว่าจะเป็นประกันแบบเจอจ่ายจบ หรือว่าจะเป็นความคุ้มครองเรื่องค่าใช้จ่ายตลอดการรักษา หลายคนยังไม่รู้ว่ามะเร็งมีกี่ระยะ วันนี้เราจะมาให้ความรู้ในเรื่องนี้
มะเร็งคืออะไร
ถ้าจะให้อธิบายว่ามะเร็งคืออะไรแบบเข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือ เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ เซลล์ในร่างกายของเราจะเกิด และแบ่งตัวออกมามากผิดปกติ มีการเจริญเติบโตแบบควบคุมไม่ได้ จนพัฒนามาเป็นเนื้องอก และไปทำลายอวัยวะอื่นๆ สามารถที่จะได้ทำลายอวัยวะได้ทั่วร่างกายผ่านทางระบบน้ำเหลืองหรือกระแสเลือด
มะเร็งเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่แบ่งแยกเพศ หรือว่าช่วงอายุ สามารถที่จะเจอได้ทั้งจากเด็กแรกเกิด ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ส่วนมากจะเจอในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป สามารถที่จะเกิดได้ในหลายอวัยวะในร่างกาย ประเทศไทยมีคนเสียชีวิตจากโรคนี้ปีละประมาณ 60,000 คน ซึ่งมะเร็งลำไส้ใหญ่ และทวารหนักเป็นอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตผู้ป่วยเพศชายมากที่สุด อยู่ที่ 16.2% และในเพศหญิงเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมมากที่สุด 37.5% สาเหตุการเกิดมะเร็งมีหลายปัจจัย แต่ส่วนมากจะเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน
โรคมะเร็งมีกี่ระยะ
โรคมะเร็งมีกี่ระยะเป็นคำถามที่พบได้บ่อยๆ โดยทั่วไปในปัจจุบันนี้จะมีการแบ่งระยะของเม็งออกเป็น 4 ระดับ เพื่อใช้ในการประเมินการรักษาโรคอย่างแม่นยำมากขึ้น แต่นอกจาก 4 ระดับที่ว่ามายังมีอีกหนึ่งระดับที่เรียกว่า โรคมะเร็งระยะศูนย์ (0) เป็นขั้นเริ่มต้นของการสงสัยว่ามีเซลล์ที่กำลังพัฒนาเป็นโรคมะเร็ง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นโรคมะเร็ง เป็นเพียงแค่ระยะเฝ้าระวังเพื่อติดตามผลต่อไป เป็นอาการเตือนของมะเร็งในระยะแรก ก่อนที่เซลล์จะมีการรุกรานต่ออวัยวะอื่นๆ
- ระยะที่ 1 : ระยะเริ่มแรกที่เซลล์เริ่มพัฒนาเป็นเนื้องอก หรือเกิดเป็นแผลมะเร็งมีขนาดเล็ก และยังไม่ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
- ระยะที่ 2 : ก้อนเนื้อ หรือแผลมะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มมีการลุกลามภายในให้ใหญ่โตขึ้นแบบควบคุมไม่ได้ และมีการกัดกินเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะบางส่วนอย่างชัดเจน
- ระยะที่ 3 : เป็นมะเร็งในระยะที่เริ่มมีการลุกลามเข้าไปในเนื้อเยื่อ หรือมีการลุกลามไปสู่อวัยวะข้างเคียง และลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่เป็นมะเร็ง
- ระยะที่ 4 : หรือที่มักจะเรียกกันว่า มะเร็งระยะสุดท้าย ก้อนเนื้อ หรือแผลมะเร็งมีขนาดโตมาก จนเริ่มมีการกัดกินจนทะลุ หรือจนทำให้อวัยวะทำงานล้มเหลว มีการรุนรานอวัยวะอื่นอย่างรวดเร็วจนเกินควบคุม เป็นระยะที่การรักษาแทบจะไม่มีผลอะไรให้ดีขึ้นเลย
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดมะเร็ง แต่ผลของการวิจัยแสดงให้เราได้เห็นว่ากว่า 90% เกิดจากปัจจัยภายนอก ทั้งที่เราสามารถควบคุมได้ และควบคุมไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องพันธุกรรมในครอบครัวอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันว่ามีปัจจัยภายนอกอะไรบ้างที่มีโอกาสทำให้เราเกิดมะเร็ง
- มลภาวะทางอากาศ ไอเสียจากรถยนต์ สารระเหยจากเคมีภัณฑ์
- การได้รับสารรังสีในปริมาณเข้มข้น หรือได้รับเป็นระยะเวลานาน
- การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา รวมไปถึงการใช้ยาเสพติดอีกหลายชนิด
- การติดเชื้อไวรัส การได้รับแบคทีเรีย และพยาธิบางสายพันธุ์
- ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- ไม่ทานผัก-ผลไม้สด หรือรับประทานอาการไม่ครบทุกหมู่
- การรับประทานอาหารสำเร็จรูปเป็นประจำ
- พฤติกรรมการกินเนื้อสัตว์ประเภทปิ้งย่าง อาหารทอด อาหารไขมันสูง หรือรับประทานอาหารซ้ำ ๆ
อาการเตือนของมะเร็งในระยะแรก
มะเร็งหลายชนิดหลังจากที่เริ่มก่อตัวในร่างกายจะยังไม่มีการแสดงอาการ ดังนั้นเลยเป็นเรื่องยากที่จะรู้ถึง อาการเตือนของมะเร็งในระยะแรก กว่าที่เราจะรู้ว่า มะเร็งมีกี่ระยะ และเรากำลังป่วยอยู่ในระยะใด อาจจะเกิดการลุกลามไปมากแล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการรู้ว่าเราป่วยคือการไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ ยิ่งตรวจพบได้เร็วมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้การรักษาสามารถที่จะทำได้ง่ายมากขึ้น หรือสามารถรักษาให้หายขาดได้เลย
นอกจากนี้ควรที่จะซื้อประกันในกลุ่มโรคร้ายที่คุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งเอาไว้ด้วย เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าเราจะเป็นคนที่โชคร้ายหรือไม่ ในอดีตมะเร็งเป็นโรคร้ายที่ประกันภัยไม่รับทำ เพราะการรักษาใช้เวลานาน และต้องรักษาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย แถมโรคนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมากๆ แต่ในปัจจุบันมีประกันสุขภาพหลายตัว ที่เจาะจงเฉพาะการรักษามะเร็ง หรือโรคร้ายอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตคนไทยเท่านั้น ซึ่งความคุ้มครองของประกันแต่ละบริษัทจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ที่ได้ทำเอาไว้ หากไม่มีความคุ้มครองจากประกันอาจจะทำให้เราสามารถล้มละลายจากการรักษามะเร็งกันได้เลย